วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555

เพลงสุนทรียะแห่งการเปิดประตูหัวใจ : เครื่องมือ Facilitator



เพลงเพราะจังเลยครับ? เพลงอะไรครับ?

เสียงสะท้อนของผู้เข้าร่วมกระบวนการเรียนรู้สะท้อนหลายครั้งในการทำกระบวนการเรียนรู้

ในการสร้างชาติ อุดมการณ์เฉพาะกลุ่มและสร้างพลังกลุ่ม เสียงเพลงกลายเป็นเครื่องมือในการปลุกเร้าพลัง ให้ฮึกเหิม กล้าแกร่งและโอนอ่อนผ่อนตามสิ่งที่นำเสนอที่ผู้ส่งสารตั้งใจแฝงเร้นไว้

เช่นเดียวกัน ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ของ Facilitator ของผม เพลงเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ขาดไม่ได้ วัตถุประสงค์หลักๆ ที่นำเพลงมาใช้คือ เน้นให้บรรยากาศผ่อนคลาย และดนตรีมีความเป็นสากลในตัวเอง รวมไปถึงการสื่อสารผ่านบทเพลงไปยังกลุ่มเป้าหมาย บางครั้งเสียงเพลงทำหน้าที่น้อมหัวใจให้สงบนิ่ง มองเห็นตัวตน
เพลงและดนตรี และผลสะท้อนจากผู้เข้าร่วมเรียนรู้ทำให้ผมเรียนรู้ได้ว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างบรรยากาศเรียนรู้ คือ เสียงดนตรี เสียงเพลง โดยเฉพาะเพลงที่มีความหมาย เนื้อหาสวยงาม และดนตรีไพเราะ สุนทรียะผ่านเสียงเพลงจึงสามารถเชื่อมโยงหัวใจให้ผู้ที่เข้าร่วมกระบวนการเรียนรู้เข้าหากัน จากความหมายร่วมที่ปรากฏในเพลงเหล่านั้น

เพลงแบบไหนที่จะถูกเลือกมาใช้ในการสร้างบรรยากาศกระบวนการเรียนรู้

  • เพลงที่มีความหมาย ผ่านเนื้อหาอันสวยงาม มีเรื่องราวและจินตนาการที่สื่อสารผ่านคำที่มีพลัง
  • เพลงที่มีเสียงดนตรีที่ฟังแล้วไพเราะ ทำให้ใจนิ่ง สงบเย็น
  • เพลงที่มีเนื้อหาเฉพาะ ที่เชื่อมโยงไปถึงกระบวนการเรียนรู้นั้นๆได้
  • เพลงที่เลือกไม่จำกัดศิลปิน หากมี MV ที่มีการสื่อสารแบบมีพลังด้วย ก็ยิ่งดี ความยาวของเพลงอยู่ที่ 3 -5 นาที 

เปิดเพลงช่วงไหนบ้าง
  • เปิดช่วงนำเข้าสู่บทเรียน เพื่อเชื่อมไปยังประเด็นการเรียนรู้ กรณีนี้ต้องเลือกเพลงที่มีเนื้อหาเฉพาะและสอดคล้องประเด็นการเรียนรู้ 
  • เปิดเพลงช่วง การนั่งสงบนิ่ง หรือ Meditation กรณีนี้เลือกเพลงที่มีท่วงทำนองช้า สงบเย็น หรือ เพลงที่สร้างจินตนาการผ่านคำได้ 
  • เปิดเพลงช่วงหยุดพักกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกระบวนการผ่อนคลาย ใช้เพลงทั่วไปที่มีเนื้อหา ดนตรีสบาย ผ่อนคลาย 
  • เปิดเพลงช่วงเสร็จสิ้นกระบวนการ เป็นเพลงที่แฝงไปด้วยความหมาย ให้พลังใจ ตอกย้ำความรู้สึกดีๆในการอยู่ร่วมกัน รวมไปถึงการให้คำมั่นสัญญา
จะเห็นได้ว่า การใช้เพลงในกระบวนการเรียนรู้นั้น ก็มีการเลือกสรรอย่างประณีต และเหมาะสมกับกระบวนการเรียนรู้นั้นๆ เรื่องเล็กๆในการสร้างบรรยากาศ แต่เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญต่อผลลัพธ์ของการเรียนรู้

ในกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผมมักใช้เพลงไหน??
ผมจะขอยกตัวอย่างเพลงมา 3 -4 เพลง ทั้งเพลงสากลและเพลงไทย ดังนี้ครับ
เพลงสากลที่ใช้บ่อย ๆ



Song: Hero
Artist: Mariah Carey





เพลงนี้เป็นเพลงให้กำลังใจ และศิลปินเองก็มีบุคลิกที่มีพลัง ความหมายของเพลงที่พยายามสื่อสารพลังที่มาจากตัวเอง
It's a long road
When you face your world alone
No one reaches out a hand
For you to hold
You can find love
If you search within yourself
And the emptiness you felt
Will disappear
มันเป็นหนทางที่แสนไกล
เมื่อใดที่เธอต้องเผชิญอยู่บนโลกอย่างโดดเดี่ยว
ไม่มีผู้ใดยื่นมือเข้ามา
เพื่อให้เธอได้จับมั่นไว้
เธอสามารถที่จะพบกับความรักได้
หากเธอได้มองหาในมันภายในตัวของเธอเอง
แล้วความว่างเปล่าที่เธอเคยรู้สึกนั้น
จะพลันหายไป
สำหรับเพลงไทย ที่มีเนื้อหาดีๆ เพิ่มพลังกาย ใจ ได้เป็นอย่างดี 

เช่นเพลงสีสันแห่งสายลม Colors Of The Wind  คุณอุ้ย ระวิวรรณ  จินดา





“...หากใจท้อแท้และยอมเดินทางที่ย้อนกลับ
ไม่ยอมรับรู้ไม่ยอมเข้าใจให้ซึ้ง
เดินหนีความจริงให้พ้นไปให้ไกลห่าง
อาจท้อใจอีกเท่าไรต้องจมน้ำตา
หากใจนั้นฝันไปไกลก็ควรจะรู้ค่า
และยอมรับว่าใจเรานั่นเองช่วยชี้
เมื่อคิดอะไรและเห็นกันไปได้อย่างเต็มที่
และย่อมมีเลื่อมลายสีสันแห่งสายลม...

เพลงแดดสุดท้าย ของ มาลีฮวนน่า



เป็นเพลงที่ผมใช้บ่อยๆในช่วงพัก หรืออาจใช้ในช่วง Meditation โดยเปิดคลอเบาๆ เพื่อให้เกิดจินตนาการผ่านเรื่องราว และคำที่สวยงาม


"…แดดสุดท้าย ก่อนพักกายพลบค่ำ
ฟ้าสีดำคลี่พืนคลุมแผ่นดินหนาว
ขี่เกวียนล้อทุ่งสู่ยุ้งฉาง
ชื่นรอยยิ้มนางบนฟางข้าว
ห่มรักเจ้าด้วยหวงและห่วง... "
เพลงอื่นๆเช่น เพลงอิฐก้อนหนึ่ง ของบี พีระพัฒน์,เพลงจอมยุทธ์ อัลบั้ม: พีทูวอร์ชิพ,เพลง Wind beneat my wing ของ Bette Midler เป็นต้น

Facilitator หรือผู้จัดกระบวนการเรียนรู้ทุกท่านที่สนใจในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้มีความสุข อาจนำเพลงเหล่านี้ไปใช้ไห้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างบรรยากาศแห่งความสุขได้ครับ




ไม่มีความคิดเห็น: